การผสมเกสรดอกทุเรียน
การผสมเกสรดอกทุเรียน
ถ้าเกสรดอกทุเรียนผสมกันเองตามธรรมชาติ จะเกิดอะไรขึ้น ?
1. ทุเรียนจะติดผลน้อย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนีจะติดผลไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์ก้านยาวจะติดผลไม่เกิน 7 เปอร์เซ็นต์
2. ทุเรียนมักจะติดผลปลายกิ่งหรือกิ่งเล็ก ทำให้การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวลำบากต้องมีการโยกกิ่ง มักทำให้กิ่งฉีกหักได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีลมพายุ หรือฝนตกหนัก
จากสาเหตุ 2 ประการนี้ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การปลูกทุเรียนได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
การเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเกสรทุเรียน มีดังนี้
1. พู่กัน
2. บันได
3. ถุงผ้าขาวบาง
4. กรรไกรตัดแต่งกิ่ง
5. กรรไกรเล็ก
6. ขวดหรือกระบอกพลาสติก
7. ไฟฉายหรือแสงสว่างชนิดอื่น
8. ป้ายสำหรับบันทึกชื่อพันธุ์ วัน เดือน ปี
ขั้นตอนการผสมเกสรทุเรียน
1. เวลา 09:00 – 12:00 น. ใช้กรรไกรเล็กตัดแต่งดอกพันธุ์แม่ให้เหลือเฉพาะดอกขาว และตัดเกสรตัวผู้ทิ้ง หลังจากนั้นใช้ถุงผ้าขาวบางคลุมดอกขาวพันธุ์แม่ไว้
2. เวลา 19:00 – 19:30 น. ทำการเก็บละอองเกสรตัวผู้ของพันธุ์พ่อ โดยใช้กรรไกรเล็กตัดเฉพาะอับละอองเกสรตัวผู้ที่แตก ใส่ไว้ในขวดหรือกระบอกพลาสติก สำหรับละอองเกสรนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะมีลักษณะเป็นละอองสีขาวเกาะติดอยู่กับอับละอองเกสร
3. เวลา 19:30 น. เป็นต้นไป เริ่มทำการผสมเกสร โดยใช้ปลายพู่กันแตะละอองเกสรตัวผู้แล้วนำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่ ซึ่งดอกเกสรพันธุ์แม่นี้จะมีลักษณะดอกกลม สีเหลือง แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางไว้ตามดิน ผูกป้ายบันทึก เขียนชื่อพันธุ์ วัน เดือน และ ปีที่ทำการผสมเกสร กิ่งทุเรียน ในแต่ละต้นมักจะมีระดับความสูงต่ำต่างกัน จึงแนะนำให้ปฏิบัติด้วยวิธีการดังนี้
ผลทุเรียนที่เกิดจากการผสมเกสร
ผลทุเรียนที่ได้จากการใช้เทคนิคผสมเกสรนั้นจะสังเกตได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
ลักษณะภายนอก
– การเจริญเติบโตของผลทุเรียนจะเร็วกว่าการผสมเกสรกันเองตามธรรมชาติ
– รูปทรงของผล สวยงาม ไม่บิดเบี้ยว พูเต็มเกือบทุกพู
ลักษณะภายใน
– ลักษณะเนื้อทุเรียน สีเนื้อทุเรียน รสชาติไม่แตกต่างจากทุเรียนที่ผสมเกสรกันเองตามธรรมชาติ
– ในแม่พันธุ์ชะนี จะได้พูเต็ม และจำนวนพูต่อผลมากขึ้น
– ในแม่พันธุ์กระดุมทอง จะได้เมล็ดลีบ ตั้งแต่ 29 – 55 เปอร์เซ็นต์
– ในแม่พันธุ์หมอนทอง จะได้ความหนาของเนื้อมาก ตั้งแต่ 1.9 – 2.78 เซ็นติเมตร และมีเมล็ดลีบ ตั้งแต่ 40 – 59 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. สามารถกำหนดตำแหน่งการติดผล ตามกิ่งที่มีขนาดใหญ่ หรือกิ่งที่อยู่ในระดับต่ำได้
2. จะช่วยให้ทุเรียนติดผลดีขึ้น
3. ช่วยในการปฏิบัติและดูแลรักษาสวนทำได้สะดวก
4. สามารถกำหนดวันเก็บเกี่ยวได้ และเก็บเกี่ยวได้ง่าย
5. จะทำให้ผลทุเรียนแก่ใกล้เคียงกัน หรือพร้อมกัน
6. รูปทรงผลสวยงาม พูเต็มเกือบทุกพู น้ำหนักและขนาดผลดี
7. ลักษณะคุณภาพของเนื้อทุเรียน และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง
8. ได้รับผลผลิตทุเรียนมากขึ้น
9. ผลผลิตทุเรียนจะเป็นที่ต้องการของตลาด
เอกสารอ้างอิง
-ทรงพล สมศรี. 2532. “การผสมเกสรทุเรียนให้ติดผลดกและคุณภาพดี” เอกสารประกอบการสัมมนาอนาคตผลไม้ไทยปี 32 จังหวัดจันทบุรี
-ทรงพล สมศรี. 2532. “การศึกษาการผสมเกสรทุเรียนพันธุ์ชะนีและก้านยาวโดยใช้เกสรตัวผู้พันธุ์ต่างๆ”
-วิทยาสารสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ
-วันทนา บัวทรัพย์ มนตรี วงศ์รักษ์พาณิช. 2533. “การปลูกทุเรียน” กรมส่งเสริมการเกษตร
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พัฒนา นรมาศ กองเกษตรสัมพันธ์)
ถ้าเกสรดอกทุเรียนผสมกันเองตามธรรมชาติ จะเกิดอะไรขึ้น ?
1. ทุเรียนจะติดผลน้อย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนีจะติดผลไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์ก้านยาวจะติดผลไม่เกิน 7 เปอร์เซ็นต์
2. ทุเรียนมักจะติดผลปลายกิ่งหรือกิ่งเล็ก ทำให้การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวลำบากต้องมีการโยกกิ่ง มักทำให้กิ่งฉีกหักได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีลมพายุ หรือฝนตกหนัก
จากสาเหตุ 2 ประการนี้ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การปลูกทุเรียนได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
การเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเกสรทุเรียน มีดังนี้
1. พู่กัน
2. บันได
3. ถุงผ้าขาวบาง
4. กรรไกรตัดแต่งกิ่ง
5. กรรไกรเล็ก
6. ขวดหรือกระบอกพลาสติก
7. ไฟฉายหรือแสงสว่างชนิดอื่น
8. ป้ายสำหรับบันทึกชื่อพันธุ์ วัน เดือน ปี
ขั้นตอนการผสมเกสรทุเรียน
1. เวลา 09:00 – 12:00 น. ใช้กรรไกรเล็กตัดแต่งดอกพันธุ์แม่ให้เหลือเฉพาะดอกขาว และตัดเกสรตัวผู้ทิ้ง หลังจากนั้นใช้ถุงผ้าขาวบางคลุมดอกขาวพันธุ์แม่ไว้
2. เวลา 19:00 – 19:30 น. ทำการเก็บละอองเกสรตัวผู้ของพันธุ์พ่อ โดยใช้กรรไกรเล็กตัดเฉพาะอับละอองเกสรตัวผู้ที่แตก ใส่ไว้ในขวดหรือกระบอกพลาสติก สำหรับละอองเกสรนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะมีลักษณะเป็นละอองสีขาวเกาะติดอยู่กับอับละอองเกสร
3. เวลา 19:30 น. เป็นต้นไป เริ่มทำการผสมเกสร โดยใช้ปลายพู่กันแตะละอองเกสรตัวผู้แล้วนำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่ ซึ่งดอกเกสรพันธุ์แม่นี้จะมีลักษณะดอกกลม สีเหลือง แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางไว้ตามดิน ผูกป้ายบันทึก เขียนชื่อพันธุ์ วัน เดือน และ ปีที่ทำการผสมเกสร กิ่งทุเรียน ในแต่ละต้นมักจะมีระดับความสูงต่ำต่างกัน จึงแนะนำให้ปฏิบัติด้วยวิธีการดังนี้
ผลทุเรียนที่เกิดจากการผสมเกสร
ผลทุเรียนที่ได้จากการใช้เทคนิคผสมเกสรนั้นจะสังเกตได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
ลักษณะภายนอก
– การเจริญเติบโตของผลทุเรียนจะเร็วกว่าการผสมเกสรกันเองตามธรรมชาติ
– รูปทรงของผล สวยงาม ไม่บิดเบี้ยว พูเต็มเกือบทุกพู
ลักษณะภายใน
– ลักษณะเนื้อทุเรียน สีเนื้อทุเรียน รสชาติไม่แตกต่างจากทุเรียนที่ผสมเกสรกันเองตามธรรมชาติ
– ในแม่พันธุ์ชะนี จะได้พูเต็ม และจำนวนพูต่อผลมากขึ้น
– ในแม่พันธุ์กระดุมทอง จะได้เมล็ดลีบ ตั้งแต่ 29 – 55 เปอร์เซ็นต์
– ในแม่พันธุ์หมอนทอง จะได้ความหนาของเนื้อมาก ตั้งแต่ 1.9 – 2.78 เซ็นติเมตร และมีเมล็ดลีบ ตั้งแต่ 40 – 59 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. สามารถกำหนดตำแหน่งการติดผล ตามกิ่งที่มีขนาดใหญ่ หรือกิ่งที่อยู่ในระดับต่ำได้
2. จะช่วยให้ทุเรียนติดผลดีขึ้น
3. ช่วยในการปฏิบัติและดูแลรักษาสวนทำได้สะดวก
4. สามารถกำหนดวันเก็บเกี่ยวได้ และเก็บเกี่ยวได้ง่าย
5. จะทำให้ผลทุเรียนแก่ใกล้เคียงกัน หรือพร้อมกัน
6. รูปทรงผลสวยงาม พูเต็มเกือบทุกพู น้ำหนักและขนาดผลดี
7. ลักษณะคุณภาพของเนื้อทุเรียน และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง
8. ได้รับผลผลิตทุเรียนมากขึ้น
9. ผลผลิตทุเรียนจะเป็นที่ต้องการของตลาด
เอกสารอ้างอิง
-ทรงพล สมศรี. 2532. “การผสมเกสรทุเรียนให้ติดผลดกและคุณภาพดี” เอกสารประกอบการสัมมนาอนาคตผลไม้ไทยปี 32 จังหวัดจันทบุรี
-ทรงพล สมศรี. 2532. “การศึกษาการผสมเกสรทุเรียนพันธุ์ชะนีและก้านยาวโดยใช้เกสรตัวผู้พันธุ์ต่างๆ”
-วิทยาสารสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ
-วันทนา บัวทรัพย์ มนตรี วงศ์รักษ์พาณิช. 2533. “การปลูกทุเรียน” กรมส่งเสริมการเกษตร
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พัฒนา นรมาศ กองเกษตรสัมพันธ์)